share

Liver Cancer

Last updated: 2 Jul 2024
2666 Views
มะเร็งตับ

ปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งตับ

การติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี หรือ ไวรัสตับอักเสบซีเรื้อรัง ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญต่อการเกิดมะเร็งตับ ตับแข็ง ที่พบบ่อย คือ พฤติกรรมการดื่มแอลกอฮอล์  และยังมีอีกกลุ่มที่เชื่อมโยงการเป็นมะเร็งตับสูง คือไขมันพอกตับ ผู้ป่วยเบาหวานเรื้องรัง ผู้ป่วยโรคอ้วน พยาธิใบไม้ในตับกลุ่มคนเหล่านี้มีความเสี่ยงสูงต่อการเกิด มะเร็ง และ มะเร็งตับ

มะเร็ง"มะเร็งตับ"แบ่งเป็น 2 ชนิดใหญ่ๆ คือ


ชนิดที่ 1 : มะเร็งของเซลล์ตับ และ มะเร็งท่อน้ำดี ถือเป็นมะเร็งต้นกำเนิดจากตับ และ ถุงน้ำดี
ชนิดที่ 2 : เป็นมะเร็งที่ที่แพร่กระจายมาจากตำแหน่งอื่นๆ ของร่างกาย โดยมากจะมาจากอวัยวะภายในช่องท้อง เช่น ลำไส้ใหญ่ 
มะเร็งตับ เป็นโรคที่มีความสำคัญ และพบบ่อย เป็นมะเร็งที่มีสถิติการเสียชีวิตสูงมากเป็นอันดับต้นๆ ของผู้ป่วยมะเร็ง

7สัญญานอันตราย ภัยร้าย มะเร็งตับ

  1. เบื่ออาหาร น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ
  2. ง่วงนอน อ่อนเเพลียมีใข้ต่ำๆตลอด 
  3. คลื่นไส้ อาเจียน
  4. แน่นท้อง ท้องผูก ท้องบวมโต
  5. ขาบวม ตัวเหลือง ตาเหลือง
  6. ปวด เสียดชายโครงขวา คลำพบก้อนที่ตับ
  7. คลำพบก้อนได้ที่ชายโครงซ้ายจากอาการม้ามโต   หากมีอาการดังกล่าวควรตรวจเช็คให้ละเอียดโดยด่วน เพื่อจะได้รับการรักษา มะเร็งตับได้ทัน


อาการของ"มะเร็ง"มะเร็งตับ จะแบ่งเป็น 4 ระยะ

มะเร็งตับระยะที่ 1  และ ระยะที่ 2  ก้อนมะเร็งมีขนาดเล็ก ไม่เกิน 1-2 เซน ส่วนใหญ่แล้วมักจะไม่แสดงอาการใดๆ หรือแสดงอาการเพียงเล็กน้อย เช่น ปวดท้องบ่อย ท้องอืดบ่อย ทำให้ผู้ป่วยสับสนคิดว่าเป็นเพียงโรคกระเพาะอาหารจึงปล่อยไว้จนเรื้องจึงลุกลาม

มะเร็งตับระยะที่ 3 และ ระยะที่ 4 ก้อนมะเร็งเริ่มมีขนาดโต เเละมีหลายก้อนเริ่มเเพร่กระจายแล้ว ส่งผลให้ตับมีปัญหา แสดงอาการชัดเจนขึ้นเช่น อาการตัวเหลือง ตาเหลือง มีภาวะท้องมานน้ำ เบื่ออาหาร คลื่นไส้อาเจียน 
 

การตรวจวินิจฉัย มะเร็ง มะเร็งตับ

ดังกล่าวไว้แล้วข้างต้นว่า ผู้ป่วย"มะเร็ง'มะเร็งตับมักมาพบแพทย์ เมื่ออยู่ในระยะท้ายของโรค เนื่องจากมะเร็งตับระยะที่1 และ2 จะไม่แสดงอาการ หรือ แสดงอาการเพียงเล็กน้อย ซึ่งการตรวจพบ มะเร็ง มะเร็งตับในระยะเริ่มต้นจะช่วยให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาที่เหมาะสม และมีโอกาสหายขาด ดังนั้นการตรวจคัดกรองเพื่อเฝ้าระวังในผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยง จึงมีประโยชน์อย่างยิ่ง

-วิธีการตรวจเพื่อเฝ้าระวังหรือวินิจฉัยโรคมะเร็ง"มะเร็งตับ ได้แก่
-การตรวจอัลตราซาวด์ของช่องท้องส่วนบน
-การเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ 
-การตรวจคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า 
-การเจาะเลือดตรวจวัดระดับ

ซึ่งการวินิจฉัย ตรวจหามะเร็งตับไม่สามารถใช้การตรวจระดับAFP เพียงอย่างเดียวได้ เนื่องจากการตรวจพบระดับAFP เป็นการตรวจเลือดเพื่อหาสารบ่งชี้ของ มะเร็ง ตับ เป็นสารโปรตีนชนิดหนึ่งที่มีในเลือดที่สูงผิดปกติอาจเป็น มะเร็งตับ ได้ แต่ก็ยังสามารถเกิดจากหลายปัจจัยที่เกี่ยวกับตับได้เช่นกัน ดังนั้นจึงต้องใช้การตรวจอย่างละเอียดอีกหลายขั้นตอน

การรักษา"มะเร็งตับ"
การรักษาผู้ป่วยมะเร็งตับสามารถทำได้หลายวิธี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับ ขนาดของก้อนมะเร็ง ระยะของโรคมะเร็ง สภาพของตับแข็ง และสุขภาพของผู้ป่วย

การรักษามะเร็งตับสามารถรักษาโดย
การผ่าตัดเอาก้อนมะเร็งตับออก (Hepatic resection)
การผ่าตัดเปลี่ยนตับ(Liver transplantation)
Transarterial Chemoembolization:TACE คือ การฉีดยาเคมีบำบัดร่วมกับสารlipiodolผ่านเส้นเลือดแดงแขนงที่เลี้ยงก้อนมะเร็ง
มะเร็งตับหากเป็นแล้ว รักษาได้ และมีโอกาสหายขาด เพียงแต่ว่าต้องมีการค้นหา มะเร็งตับ มะเร็งตั้งแต่ระยะเริ่มต้น และมีการตรวจอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงและอายุ 40-45 ปีขึ้นไป หรือผู้ที่มีไวรัสตับอักเสบบี หรือซีในร่างกาย ควรตรวจคัดกรองเฝ้าระวังมะเร็งตับทุก 6-12เดือน

มะเร็ง"มะเร็งตับ"มีปัจจัยเสี่ยงหลายประการ

ดังนั้นการป้องกันมะเร็ง"มะเร็งตับ จึงสามารถทำได้ด้วยการดูแลตนเอง และการปรับเปลี่ยน

พฤติกรรมต่อไปนี้

1 งดสุราและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะเสี่ยงต่อการเป็นโรคตับแข็งที่อาจนำไปสู่การเป็นมะเร็งตับ

2. เลี่ยงของหมัก ของดอง เพราะสารที่เกิดจากของหมักดองมีส่วนทำให้เกิดมะเร็งตับที่ได้

3. เลี่ยงการทานยามากเกินไป เพราะยาเกือบทุกชนิดส่งผลต่อตับ ควรอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์เท่านั้น
4. เลี่ยงอาหารที่ปนเปื้อนสารแอฟลาทอกซิน (Aflatoxin) ก่อมะเร็งตับ ได้แก่ ถั่วลิสง พริกแห้ง พริกป่น ข้าว

5. เลี่ยงอาหารที่มีไขมันทรานส์ อย่างเบเกอรี่ พาย คุกกี้ แยมโรล เค้กเนยสด ครีมเทียม ฯลฯ เพราะอาหารไขมันสูงส่งผลให้ตับทำงานหนักในการสร้างน้ำดีมาย่อยอาหาร
6. ทานวิตามินรวมเสริมเพื่อช่วยบำรุงตับ แต่ควรเลือกผู้ผลิตที่น่าเชื่อถือ หรือศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด

7. ควบคุมน้ำหนัก ไม่ให้เสี่ยงกับโรคเบาหวาน ไขมัน และโรคอ้วน เพราะเป็นต้นเหตุสำคัญของโรคมะเร็งตับ

8. ตรวจเลือดเพื่อดูว่ามีไวรัสตับอักเสบบีหรือซี หากไม่มีเชื้อสามารถให้วัคซีนได้ หากมีเชื้อก็ควรให้แพทย์ดูแลรักษาอย่างสม่ำเสมอ

นอกจากนี้ควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ พักผ่อนให้เพียงพอ  และตรวจเช็กสุขภาพเป็นประจำ รวมทั้งหมั่นสังเกตความผิดปกติในร่างกาย เพื่อจะได้รับมือกับมะเร็งได้อย่างทันท่วงที

ข่าวค้น สารเซซามิน(sesamin)ในงาดำยับยั้งเซลล์มะเร็ง

 

 ข่าวการค้นพบสารเซซามิน(sesamin)จากงาดำเพื่อรักษาผู้ป่วยมะเร็งตับ เป็นอาหารเสริมต้านมะเร็งตับ และมะเร็งอื่นๆ เป็นผลงานวิจัยของ ม.เชียงใหม่ การค้นพบในครั้งนี้ถือได้ว่าเป็นประโยชน์อย่างมาก ถือว่าเป็นการพัฒนาไปอีกก้าวของวงการแพทย์ไทย และที่สำคัญ นี่เป็นครั้งแรกของโลก ที่พบว่าสารเซซามิน (Sesamin)ยับยั้งมะเร็งตับ และเป็นอาหารเสริมต้านมะเร็งตับ ที่พบนั้นจะไปยั้บยั้งการฟื้นฟูเซลล์จากการถูกทำลาย หรือพูดง่ายๆ ว่า จะใช้ในการยับยั้งมะเร็งตับ เเละมะเร็งทั่วไปได้  จากการตัดท่อน้ำเลี้ยง ของเซลล์มะเร็งด้วยการหยุดการสร้างหลอดเลือดใหม่ของก้อนมะเร็ง ทำให้ก้อนมะเร็งฝ่อ ลง เซลล์มะเร็งตับจะลดจำนวนลงตามลำดับ และเป็นอาหารเสริมต้านมะเร็งตับ

สารสกัด...เซซามิน(sesamin)จากงาดำ เข้าไปทำอะไรกับ เซลล์มะเร็งตับ และ มะเร็งทั่วไป

คลิ๊ก.....ชมคลิปนี้ !!!

 

สุดยอดงานวิจัยไทย..ค้นพบ 4 คุณสมบัติสำคัญของ เซซามิน (sesamin)สารสกัดจากงาดำ..ช่วยดูแลและยับยั้งเซลล์มะเร็งตับ

ศ.ดร.ปรัชญา คงทวีเลิศ นักวิจัย ม.เชียงใหม่ ค้นพบ "สารสกัดเซซามิน (Sesamin)" จากงาดำ....ทำลายเซลล์มะเร็ง"มะเร็งตับ

-สารเซซามิน (Sesamin) ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ

-สารเซซามิน (Sesamin) ช่วยยั้บยั้งการอักเสบ

-สารเซซามิน (Sesamin) ช่วยลดทั้งการสังเคราะห์และลดการดูดซึมสารโคเรสเตอรอล

-สารเซซามิน (Sesamin) ทำให้มะเร็งบางชนิดเข้าสู่ขบวนการทางชีวเคมีที่ทำให้เซลล์ตาย

-สารเซซามิน (Sesamin) ช่วยยั้บยั้งการลุกลามของมะเร็งบางชนิดได้

-สารเซซามิน (Sesamin) กระตุ้นให้ร่างกายสร้างสาร IL2 และ IFN-Gramma จากเม็ดเลือดขาว

-สารเซามิน (Sesamin) ช่วยดูแลเกี่ยวกับระดับน้ำตาลในเลือด

-สารเซซามิน (Sesamin) ทำหน้าที่ช่วยเผาผลาญกรดไขมัน

-สารเซซามิน (Sesamin) ช่วยทำให้ วิตตามิน E ทำงานได้มีประสิทธิภาพ มากยิ่งขึ้น

-สารเซซามิน (Sesamin) ช่วยขจัดสารพิษออกจากร่างกาย

-สารเซซามิน (Sesamin) ช่วยลดอาการปวด และอักเสบบริเวณต่างๆ ของร่างกาย

-สารเซซามิน (Sesamin) ลดการเสื่อมสลายของข้อกระดูก และกระดูกอ่อน

นอกจากนี้ยังมีงานวิจัย ที่ได้ทำการศึกษาที่หน่วยวิจัยมที่มีความเป็นเลิศทางด้านวิศวกรรม

เนื้อเยื่อและเซลล์ต้นกำเนิด

สารสกัดเซซามิน SESAMIN เหมาะกับใครบ้าง?

-ผู้ที่ต้องการลดผลข้างเคียงในระหว่างการให้คีโม หรือ ฉายแสง ทำให้เกิดอาการแพ้น้อยลง

-ผู้ที่ต้องการเพิ่มภูมิคุ้มกันของตัวเองให้เพิ่มมากขึ้น เพื่อช่วยให้ร่างกายตอบรับการรักษามะเร็ง

-ผู้ที่ไม่สามารถใช้ คีโม หรือ ฉายแสง ในการรักษามะเร็งด้วยตัวเองได้

-ผู้ที่ต้องการกระตุ้นภูมิคุ้มกัน เพื่อให้ร่างกายสามารถกำจัดเนื้อร้าย ในการรักษามะเร็งอย่างมีประสิทธิภาพ และไม่มีผลข้างเคียงในการรักษามะเร็ง

-ผู้ที่คิดว่าตัวเองมีความเสี่ยงที่จะเป็นเนื้อร้าย หรือ มะเร็ง เนื้องอก ซีส

-ผู้ที่มีคนในครอบครัวเป็นมะเร็งตับ และ มีความเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็ง

-ผู้ที่มีปัญหาเม็ดเลือดขาวตก ไม่สามารถให้คีโมได้

มะเร็ง..มะเร็งตับ..มะเร็งทุกระยะมีพิษร้ายแรง

อย่ารอให้ถึงระยะสุดท้ายแล้วค่อยรักษา

ตัดสินใจช้าอาจจะเป็นการตัดสินใจครั้งสุดท้ายของคุณ

แต่มีโอกาสรอด....ถ้าคุณรีบตัดสินใจ....

บทความที่เกี่ยวข้อง
มะเร็งลำไส้
มะเร็งลำไส้ อาการที่พบบ่อยของผู้ป่วยโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ถ่ายอุจจาระเป็นเลือดหรือ อุจจาระมีลักษณะสีเข้ม และมีเลือดปนอุจจาระเหลว และสลับกับแข็ง
2 Jul 2024
มะเร็งปากมดลูก
มะเร็งปากมดลูกในระยะแรกมักไม่แสดงอาการเมื่อมะเร็งปากมดลูกลุกลามแล้ว อาจจะมีเลือดออกผิดปกติ เช่น เลือดออกหลังจากมีเพศสัมพันธ์ มีเลือดออกหลังจากหมดประจำเดือนแล้ว
2 Jul 2024
มะเร็งปอด
มะเร็งปอด อาการของโรคมะเร็งปอด ระยะเริ่มแรกของโรค จะไม่มีอาการใดๆ ที่บ่งบอกได้อย่างชัดเจนว่าเป็นโรคมะเร็งในปอด แต่ควรสังเกตจากอาการเหล่านี้ - ไอเรื้อรัง จะมีลักษณะไอแห้งๆ อยู่นานกว่าปกติ บางครั้งมีเสมหะ หรือมีเลือดออกเป็นเพียงสายๆ ติดปนกับเสมหะออกมา
2 Jul 2024
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy